พรรณานิคมออร์แกนิค
แพรทฟอร์มพรรณาOrganic เป็นการรวบรวมผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นการเกษตรแบบ Organic หรืออินทรีย์ ที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ฉีดยาฆ่าแมลง ฉีดยาฆ่าวัชพืช สามารถที่จะรับประทานได้ทันที เพื่อทำให้ผู้บริโภคได้รับอาหารปลอดสารเคมี ที่ส่งผลให้ลดการเกิดโรคต่าง ๆ ที่ได้รับจากการทำเกษตรเคมีเช่นในปัจจุบันโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้
1. กลุ่มเกษตรกรที่ดำเนินการปลูกในโรงเรือนซึ่งเป็นออร์แกนิค 100%
2. กลุ่มเกษตรกรที่ดำเนินการปลูกโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง และยาฆ่าวัชพืช โดยการคลุมหน้าดินด้วยแผ่นพลาสติกเพื่อกันวัชพืช และการเลี้ยงสัตว์โดยการให้อาหารสัตว์จากการผลิตอาหารด้วยตนเองโดยไม่ใส่สารเคมีในการผสมอาหาร แต่วัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารเพื่อเลี้ยงสัตว์อาจจะไม่ใช่ออร์แกนิค เช่นมันสำปะหลัง เป็นต้น
3. กลุ่มเกษตรกรที่ดำเนินการปลูกพืชโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ยากำจัดวัชพืช และยากำจัดแมลง แต่อาจจะมีการปนเปื้อนจากปัจจัยภายนอก เช่น สวนใกล้เคียงยาฆ่าหญ้าในการกำจัดวัชพืชเป็นต้น
เราจึงต้องแบ่งแยกสินค้าการเกษตรเป็น 3 ระดับ ซึ่งหากเป็นออร์แกนิค 100% ก็จะบอกตามจริง โดยส่วนใหญ่จะเป็นการผลิตที่อยู่ในโรงเรือนระบบปิด ที่อยู่ในประเภทที่ 1 ก็จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่หากเป็นประเภทที่ 2 และ 3 ก็จะมีราคาแพงกว่าตลาดทั่วไปไม่มากนัก
ผู้บริโภคจะได้มั่นใจได้ว่าสินค้าแต่ละประเภทนั้นมีการปนเปื่อนสารเคมีที่น้อยตามข้อเท็จจริง จะได้เลือกซื้อตามความต้องการของตนเองอย่างถูกต้อง
เราดำเนินกิจการด้วยการจำหน่ายสินค้าที่เป็นเกษตรอินทร์ย์ และออร์แกนิค เพื่อเข้ามาสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาทำการเกษตรออร์แกนิคกันมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการทำเกษตรเคมีนั้น ส่งผลเสียต่อชีวิตและร่างกายของเกษตรกร สัตว์เลี้ยง พ่อค้าแม่ค้า และผู้บริโภค เพียงแค่สัมผัสด้วยทางกาย สูดดม และการบริโภค ทำให้เกิดปัญหาโรคต่าง ๆ มากมายที่มีส่วนมาจากการทำเกษตรเคมี
ดังนั้น พรรณานิคมออร์แกนิค เป็นศูนย์รวมของเกษตรกรที่ทำการเกษตรอินทรีย์ และออร์แกนิค โดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ยากำจัดวัชพืช และยากำจัดแมลง แต่อาจจะมีการปนเปื่อนจากปัจจัยภายนอก
เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนด้านการตลาดให้แก่เกษตรกรที่ร่วมเป็นสมาชิคของพรรณานิคมออร์แกนิค
หลักการและเหตุผลที่สำคัญต่อการดำเนินการ
เนื่องจากประเทศที่มีเทคโนโลยี และความเจริญทางเศรษฐกิจทั่วโลกได้ต่างพากันเปลี่ยนวิธีทำการเกษตรเป็นออร์แกนิคกันอย่างมาก เพราะเคมีมีส่วนทำให้ประชาชนของประเทศที่เจริญแล้ว เป็นโรคต่าง ๆ กันอย่างมาก ซึ่งส่งผลเสียอย่างมากมายให้กับประเทศ เนื่องจากโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการบริโภคอาหารที่มีการใช้เคมีเข้ามาเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อเร่งการเจริญเติบโต
แต่เมื่อนำมาบริโภค กลับพบว่ามีสารเคมีต่าง ๆ ตกค้างซึ่งส่งผลทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติ และเกิดเป็นโรคต่าง ๆ ที่มีผลต่อชีวิต ประเทศต่าง ๆ จะต้องหมดงบประมาณมหาศาลในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่เป็นโรคต่าง ๆ จากการบริโภคอาหารที่มีสารเคมีตกค้าง โดยโรคที่มักพบส่วนใหญ่จะเป็นโรคมะเร็ง เบาหวาน ความดัน โลหิตจาง และมีหลายกรณีที่เป็นเกิดขึ้นกับเด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไป ซึ่งในอดีตจะพบได้น้อยมากหากเปรียบเทียบในปัจจุบัน
จึงได้มีการตรวจสอบปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาหารจึงได้พบสาเหตุที่สำคัญคือสารตกค้างจากพืชและสัตว์ที่นำไปใช้เร่งการเจริญเติบโต จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงการทำการเกษตรแบบออร์แกนิคกันอย่างมากในประเทศที่เจริญแล้วทั่วโลก
แต่ประเทศไทย ยังไม่มีความกระตือรือร้น และเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง ยังมีอีกจำนวนมากที่ยังคงทำการเกษตรแบบเคมี จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ พรรณานิคมออร์แกนิค จะต้องเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกษตรกรเปลี่ยนวิธีการทำการเกษตรแบบอินทรีย์ และออร์แกนิคมากยิ่งขึ้น
ที่เหลือคือการทำเกษตรอุตสาหกรรมประเภอพืชที่มีการรับซื้อเป็นจำนวนมากในการแปลรูปเช่น มันสำปะหลัง น้ำตาล เป็นต้น
ทำให้ผู้บริโภคสามารถรับทราบถึงวัตถุดิบที่ไม่ใช่ออร์แกนิคมีน้ำตาลที่ได้จากต้นอ้อย มันสำปะหลัง และสิ่งที่แปรรูปจากมันสำปะหลัง เช่นแป้งสาคู เส้นก๋วยเตี๋ยว บะหมี่กรึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อร่างกายในการทำการเกษตร และผู้บริโภคก็ได้รับอาหารที่ปลอดสารเคมี ที่มีส่วนอย่างยิ่งในการทำให้เป็นโรคร้ายแรงต่าง ๆ
